วิจารณ์บทเพลงเรียนและงาน : สะท้อนสังคมไทย
วิจารณ์เพลงเรียนและงาน
(พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์)
โดย รินทร์
เพลงเรียนและงานเป็นผลงงานเพลงเพื่อชีวิตของ
พงษ์สิทธิ์คัมภีร์
แนวเพลงเสียดสีสังคมในเรื่องของระบบการศึกษาและการใช้เส้นสายในระบบสังคมไทย ซึ่งปัญหาการตกงานของนักศึกษาจบใหม่นับเป็นปัญหาที่สำคัญของสังคมและความล้มเหลวของการศึกษาไทยที่มีมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
เนื้อหาเพลง
ออกเดินจากบ้านสู่เมืองฟ้า สู่เมืองเทวาเมืองบางกอก
เดินทางเดียวดายจากบ้านนอก มาเล่า มาเรียน มาศึกษา
เจอะคนทั้งแบบนี้แบบนั้น เจอะทั้งแมงวันทั้งจิ้งจอก
เจอทั้งคนดีคนกลับกลอก คนหวังปลอกลอก มีมากมาย
ตั้งใจร่ำเรียนทุกค่ำเช้า ถึงหนักถึงเบาไม่ร้องบอก
อยู่ไปวันๆ เหมือนมีปลอก ลากคอให้เดินตามทาง
ชี้ให้ฉันเดินไปทางไหน จะเร่งรีบไปตามคุณบอก
หัวใจเฉื่อยชาแต่ช้ำชอก แตกหักยับเยิน..ป่นปี้
เดินทางเดียวดายจากบ้านนอก มาเล่า มาเรียน มาศึกษา
เจอะคนทั้งแบบนี้แบบนั้น เจอะทั้งแมงวันทั้งจิ้งจอก
เจอทั้งคนดีคนกลับกลอก คนหวังปลอกลอก มีมากมาย
ตั้งใจร่ำเรียนทุกค่ำเช้า ถึงหนักถึงเบาไม่ร้องบอก
อยู่ไปวันๆ เหมือนมีปลอก ลากคอให้เดินตามทาง
ชี้ให้ฉันเดินไปทางไหน จะเร่งรีบไปตามคุณบอก
หัวใจเฉื่อยชาแต่ช้ำชอก แตกหักยับเยิน..ป่นปี้
ชี้ให้ฉันเขียนฉันรีบเขียน
ชี้ให้ฉันเรียนให้ฉันสอบ
แข่งขันกันไปหลายรอบ มาเลือกเอาม้าพันธุ์ดี
ทำเพื่อหนทางที่วาดหวัง รีดเข็นพลังพุ่งพวยออก
ก็ตามประสาคนจนตรอก หวังงานทำเงินเลี้ยงครอบครัว
แข่งขันกันไปหลายรอบ มาเลือกเอาม้าพันธุ์ดี
ทำเพื่อหนทางที่วาดหวัง รีดเข็นพลังพุ่งพวยออก
ก็ตามประสาคนจนตรอก หวังงานทำเงินเลี้ยงครอบครัว
จวบจนฉันจบการศึกษา
รับใบปริญญาที่ฉันชอบ
สุขใจแค่ไหนไม่ต้องบอก ยิ้มพลางเดินพลางสบายดี
รีบเดินย้ำต๊อกหางาน ความสุขชื่นบานที่เคยมี
เริ่มหดเริ่มหายลงทุกที ไม่มี ไม่มี ไม่มีงาน
รับคน15 คนทำงาน เด็กฝากเด็กท่านเอา 1 โหล
ที่เหลือหมื่นพันร้องไห้โฮ ระบบทางแก้ไม่มี...........
สุขใจแค่ไหนไม่ต้องบอก ยิ้มพลางเดินพลางสบายดี
รีบเดินย้ำต๊อกหางาน ความสุขชื่นบานที่เคยมี
เริ่มหดเริ่มหายลงทุกที ไม่มี ไม่มี ไม่มีงาน
รับคน15 คนทำงาน เด็กฝากเด็กท่านเอา 1 โหล
ที่เหลือหมื่นพันร้องไห้โฮ ระบบทางแก้ไม่มี...........
หลายที่หลายแห่งคนทำงาน
เช้าชามเย็นชาม 2 ขั้นปี
แต่คนขยันทำงานดี ไม่มี ไม่มี ไม่มองมา
อย่างงี้เมื่อไหร่บ้านเมืองไทย เจริญก้าวไปทัดเทียมทัน
นานาประเทศดังคำขวัญ เขียนเอาไว้สวยดี
อุตส่าห์ร่ำเรียนมาแทบตาย แต่ผลสุดท้ายต้องตกงาน
หมดเงินหมดแรงอยู่ตั้งนาน วิมานมาพังไร้ชิ้นดี
แต่คนขยันทำงานดี ไม่มี ไม่มี ไม่มองมา
อย่างงี้เมื่อไหร่บ้านเมืองไทย เจริญก้าวไปทัดเทียมทัน
นานาประเทศดังคำขวัญ เขียนเอาไว้สวยดี
อุตส่าห์ร่ำเรียนมาแทบตาย แต่ผลสุดท้ายต้องตกงาน
หมดเงินหมดแรงอยู่ตั้งนาน วิมานมาพังไร้ชิ้นดี
แม่จ๋า..
ลูกกลับมาแนบเนา กลับสู่บ้านเราด้วยช้ำชอก
ทุ่มเทกายใจให้บ้านนอก หลังถูกจับขังหลายปี
แม่จ๋า.. ลูกกลับมาแนบเนา กลับสู่บ้านเราด้วยช้ำชอก
ทุ่มเทกายใจให้บ้านนอก หลังถูกจับขังหลายปี
พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์
ทุ่มเทกายใจให้บ้านนอก หลังถูกจับขังหลายปี
แม่จ๋า.. ลูกกลับมาแนบเนา กลับสู่บ้านเราด้วยช้ำชอก
ทุ่มเทกายใจให้บ้านนอก หลังถูกจับขังหลายปี
พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์
จากเนื้อเพลงข้างต้นเป็นการบอกเล่าเรื่องของเด็กบ้านนอกจากบ้านเข้าไปร่ำเรียนในเมืองใหญ่เพื่อไขว่คว้าใบปริญญา ตรากตรำทำตามความฝันที่วาดไว้ และคาดหวังว่าจบไปแล้วจะมีงานทำเลี้ยงดูครอบครัวได้ เขาตั้งใจเล่าเรียนอยู่ในกรอบของการศึกษา ฝ่าฝันอุปสรรคจากสังคม สภาพแวดล้อม ผู้คนร้อยพ่อพันธ์แม่ที่มีทั้งดีและไม่ดี อยู่ในสังคมของการแข่งขัน สอบแข่งขันวัดผลกันหลายรอบเพื่อคัดเลือกเฉพาะผู้เรียนที่มีคุณภาพให้จบการศึกษา จนเขาได้รับใบปริญญาที่อยากได้ มีความสุข ปลาบปลื้ม เมื่อจบมาใหม่ แต่กลับต้องมารันทดใจเมื่อไม่สามารถหางานทำได้ เพราะองค์กรต่างๆ ที่รับพนักงานวุฒิปริญญาตรีเข้าทำงานไม่มากนัก โดยส่วนมากเด็กมีเส้นสาย เด็กฝากมักรับการคัดเลือกให้เข้าทำงาน โดยไม่ได้พิจารณาจากความสามารถของผู้เข้าทำงานเป็นหลัก การได้รับการเลื่อนขั้นของตำแหน่งงานมักเป็นผู้ประจบสอพลอ กลับไม่ใช่คนขยันตั้งใจทำงานจริงๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้เมื่อไหร่ประเทศถึงจะเจริญเท่าทันประเทศอื่น คนเก่งคนดีมีคุณภาพไม่ได้รับการบรรจุเข้าทำงาน สุดท้ายคนที่เล่าเรียนจนจบปริญญาตรีแต่ไม่มีเส้นสาย ไม่สามารถหางานทำได้ ก็ต้องกลับบ้านนอกด้วยความผิดหวัง
คุณค่าที่ได้รับจากบทเพลง
1.ด้านสังคม
สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของการศึกษาที่ผลิตผู้จบการศึกษาไม่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานและระบบอุปถัมภ์การใช้เส้นสายเข้าทำงานเป็นสิ่งที่ยังมีให้เห็นกันโดยทั่วไปในเกือบทุกองค์กรไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน
การรับคนมีเส้นสายเข้าทำงานแทนที่คนเก่ง คนดี มีคุณภาพ
การเลื่อนขั้นตำแหน่งงานที่ใช้เส้นสายพรรคพวกและการประสบพลอเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ได้เลื่อนตำแหน่งเร็วกว่าผู้ที่มีความขยันและตั้งใจทำงานจริงๆ
ทำให้ประเทศไทยพัฒนาๆไปอย่างล่าช้า หากระบบนี้หายไปจากสังคมไทย
ขาดซึ่งการคดโกงทุจิต ให้โอกาสคนดีมีคุณภาพได้ทำหน้าที่ในองค์กรต่างๆอย่างเต็มที่แล้ว
ประเทศชาติย่อมได้รับการพัฒนาและเจริญทัดเทียมนานาประเทศ
2. ด้านอารมณ์จิตใจ
ทำให้ผู้ฟังรู้สึกสะเทือนใจ
หดหู่ และเบื่อหน่ายกับระบบสังคมไทย โดยเฉพาะผู้ที่เรียนจบมาแล้วไม่มีงานทำ
เข้าใจถึงความตรากตรำและความผิดหวังเป็นอย่างดี
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ปลุกให้ฮึกเหิมให้ต่อสู้ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคเหล่านั้นด้วยเช่นกัน
3.ด้านภาษา
การใช้ภาษามีความกระชับเข้าใจง่ายแต่กินความหมายได้ลึกซึ้ง
ผู้ฟังสามารถตีความจากเนื้อเพลงได้อย่างตรงไปตรงมา มีการใช้คำเปรียบเทียบ
ยกตัวอย่างเช่น
“แข่งขันกันไปหลายรอบเหมือนเลือกเอาม้าพันธ์ดี” ซึ่งม้าพันธ์ดี
หมายถึงบุคคลที่มีคุณภาพ
4.ด้านการนำไปประยุกต์ใช้
ในฐานะที่ผู้วิเคราะห์เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่จะจบไปหางานทำในอนาคตอันใกล้นี้
คิดว่าเราควรฝีกฝนตนให้เป็นบุคคลที่มีประสิทธิภาพ มีทักษะความสามารถ
ให้เป็นที่ต้องการขององค์กรที่คาดว่าจะไปทำงาน ถึงแม้ไม่มีเส้นสายในการเข้าทำงาน
ก็ต้องเพียรพยายาม ไม่งอมืองอเท้า
เมื่อได้มีโอกาสเข้าไปทำหน้าที่แล้วจะต้องพิสูจน์ตนเอง
ให้องค์กรเห็นว่าบุคคลธรรมดาที่มาจากบ้านนอก ก็มีความรู้ความสามารถในการทำงาน
มีคุณภาพเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาองค์กรณ์ได้เช่นกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น